
Ivy League (ไอวีลีก) เป็นชื่อของกลุ่มมหาวิทยาลัยเอกชน 8 แห่งที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอเมริกา ซึ่งถือเป็นการรวมตัวของมหาวิทยาลัยเก่าแก่ ดังมาก แพงมาก และเข้ายากมากกกกกกกกก โดยรวมกันเป็น Ivy League ตั้งแต่ค.ศ. 1935 ใครเข้าไปเรียนได้นี่ต้องถือว่าเก่งขั้นเทพมากจริงๆ ค่ะ สำหรับคำว่า Ivy นั้นมาจากชื่อของเถาไม้เลื้อยชนิดหนึ่งที่มักปลูกเกาะคลุมผนังด้านนอกตึกเรียนเก่าๆ ของมหาวิทยาลัยนั่นเอง

มหาวิทยาลัยใน Ivy Leauge จะอยู่บริเวณพื้นที่สีเขียวๆ
ต้นไอวี่ที่เกาะตามผนังตึกต่างๆ
8 สถาบันแห่ง Ivy League
มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University ค.ศ. 1636)
มหาวิทยาลัยเยล (Yale University ค.ศ. 1701)
มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย (University of Pennsylvania ค.ศ. 1740)
มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน (Princeton University ค.ศ. 1746)
มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University ค.ศ. 1754)
มหาวิทยาลัยบราวน์ (Brown University - ค.ศ. 1764)
วิทยาลัยดาร์ตมัธ (Dartmouth Collage ค.ศ. 1769)
มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ (Cornell University ค.ศ. 1865)
ความพิเศษของ Ivy League
1. ทั้ง 8 สถาบันติดอันดับ TOP 15 ของมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในอเมริกา2. 7 สถาบันยกเว้น Cornell University ก่อตั้งในช่วงที่อเมริกายังไม่ประกาศอิสรภาพของประเทศ
3. บางทีถ้าพูดถึง Ivy League คนอเมริกันส่วนมากจะนึกถึงพวกกลุ่มคนชั้นสูง (อารมณ์ไฮโซ) แต่จริงๆ แล้วใน Ivy Leauge ไม่มีการแบ่งชนชั้นของคนเรียน อย่างเช่น Cornell University ถือเป็นมหาวิทยาลัยแรกๆ ในอเมริกาที่ออกมาประกาศจุดยืนในระเบียบการรับนักศึกษาเลยว่า ในมหาวิทยาลัยจะไม่มีการแบ่งชนชั้นหรือเหยียดสีผิวแน่นอน
4. การสมัครเข้าเรียนในสถาบัน Ivy League คะแนนอย่างหนึ่งที่สำคัญมากคือคะแนนผลสอบ SAT1 (Scholastic Aptitude Test 1) ซึ่งมี 3 พาร์ทคือ การอ่านวิเคราะห์ คณิตศาสตร์ และการเขียน โดยคะแนนเต็มแต่ละพาร์ทคือ 800 คะแนน จากสถิติแล้ว คนที่ได้รับการตอบรับให้เข้าไปเรียนใน Ivy League มักได้ทุกพาร์ทไม่ต่ำกว่า 750 คะแนน !
5. ส่วนคะแนนสอบภาษาอังกฤษอย่าง TOEFL หากเป็นการสอบแบบอินเตอร์เน็ตหรือ iBT นั้น ต้องได้ไม่ต่ำกว่า 100 คะแนน
Harvard University ตั้งอยู่ในเมืองแคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในอเมริกา โดยชื่อของมหาวิทยาลัยตั้งตามชื่อของจอห์น ฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นผู้บริจาคเงินคนแรก ถือเป็นมหาวิทยาลัยในอเมริกาที่มีผู้สมัครเข้าเรียนมากที่สุด ค่าเล่าเรียนต่อปีรวมค่าหอพักแล้วอยู่ที่ปีละ $48,868 หรือประมาณ 1,460,000 บาท สาขาที่เปิดสอนและถือว่ามีชื่อเสียงเป็นอันดับ 1 ของโลกได้แก่ ฟิสิกส์ เศรษฐศาสตร์ คณิตศาสตร์ เภสัชศาสตร์ สังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยเยล ก่อตั้งในปี ค.ศ.1701 โดยตั้งอยู่ในเมืองนิวฮาเวน มลรัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐอเมริกา มีชื่อเสียงทางด้านกฏหมาย และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยเยลมีชื่อเล่นว่า Bulldog, Elis และ Yalies โดยมีตุ๊กตาสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยคือ Handsome
Danสุนัขพันธุ์ Bulldog
Yale University ตั้งอยู่ในเมืองนิวเฮเว่น รัฐคอนเนคทิคัต ในแต่ละปีมีผู้สมัครเข้าเรียนระดับปริญญาตรีมากกว่า 20,000 คน แต่สถิติผู้ที่ได้รับการตอบรับเข้าเรียนมีเพียงประมาณ 7% เท่านั้น แต่กว่าครึ่งของนักศึกษาที่ได้เข้ามาเรียนมักได้รับทุนการศึกษาจากทางมหาวิทยาลัยด้วย สาขาที่มีชื่อเสียงได้แก่ นิติศาสตร์ มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ เกษตรศาสตร์
University of Pennsylvania หรือที่มีชื่อย่อว่า UPenn ตั้งอยู่ในเมืองฟิลาเดเฟีย รัฐฟิลาเดเฟีย ถือเป็นมหาวิทยาลัยแรกในอเมริกาที่เปิดสอนคณะแพทยศาสตร์ ในแต่ละปีมีผู้สมัครเข้าเรียนระดับปริญญาตรีประมาณ 31,000 คน และได้รับการตอบรับประมาณ 10% ถือเป็น 1 ใน 10 มหาวิทยาลัยในอเมริกาที่มีคนสนใจสมัครเข้าเรียนมากที่สุด สาขาที่มีชื่อเสียงได้แก่ เศรษฐศาสตร์ บริหารธุรกิจ พยาบาลศาสตร์ ชีววิศวกรรม วิศวกรรมเครื่องกล นาโนเทคโนโลยี วิศวกรรมเคมี วิทยาการคอมพิวเตอร์
Princeton University ตั้งอยู่ในเมืองพรินซ์ตัน รัฐนิวเจอร์ซีย์ ความน่าสนใจของพรินซ์ตันคือ เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากทั้งๆ ที่ไม่เปิดสอนคณะแพทยศาสตร์ นิติศาสตร์ และบริหารธุรกิจ ค่าเล่าเรียนระดับปริญญาตรีอยู่ที่ปีละ $50,620 หรือประมาณ 1,500,000 บาท ผู้สมัครที่ได้รับการตอบรับให้เข้าเรียน ส่วนมากต้องมีเกรดเฉลี่ยที่จบจากระดับมัธยมศึกษาตอนปลายได้ 4.00 !! สาขาที่มีชื่อเสียง ได้แก่ จิตวิทยา ประวัติศาสตร์ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ คณิตศาสตร์
Columbia University หรือที่มีชื่อเต็มๆ ว่า Columbia University in the City of New York ตั้งอยู่ในเมืองแมนฮัตตัน รัฐนิวยอร์ก นักศึกษาที่เข้าเรียนในระดับปริญญาตรีมากกว่าครึ่งได้รับทุนการศึกษาจากทาง
มหาวิทยาลัยไม่น้อยกว่าปีละประมาณ $20,000 หรือประมาณ 600,000 บาทต่อคน ในขณะที่ค่าเล่าเรียนต่อปีอยู่ที่ประมาณ $18,000-24,000 หรือประมาณ 540,000-720,000 ต่อคน สาขาที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ศิลปะ นิติศาสตร์ สาธารณสุข วิศวกรรมศาสตร์ ศัลยศาสตร์
มหาวิทยาลัยไม่น้อยกว่าปีละประมาณ $20,000 หรือประมาณ 600,000 บาทต่อคน ในขณะที่ค่าเล่าเรียนต่อปีอยู่ที่ประมาณ $18,000-24,000 หรือประมาณ 540,000-720,000 ต่อคน สาขาที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ศิลปะ นิติศาสตร์ สาธารณสุข วิศวกรรมศาสตร์ ศัลยศาสตร์
Brown University ตั้งอยู่ในเมืองโพรวิเดนซ์ รัฐโรดไอซ์แลนด์ 96% ของนักเรียนที่ได้เข้าเรียนในระดับปริญญาตรีที่นี่ มีผลการเรียนดีเลิศในระดับ 10% แรกของโรงเรียนที่จบมา จากผลการสำรวจของ Princeton Review ซึ่งเป็นบริษัทแนะแนวการศึกษาต่อในอเมริกาพบว่า นักศึกษาที่นี่มีสุขภาพจิตดีและมีความสุขมากกว่านักศึกษาของมหาวิทยาลัยอื่น สาขาที่มีชื่อเสียง ได้แก่ คณิตศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และวิทยาการคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ดาราชื่อดังอย่างเอมม่า วัตสันก็เป็นนักศึกษาที่นี่ด้วย
Dartmouth College ตั้งอยู่ในเมืองฮันโนเวอร์ รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ปัจจุบันมีนักศึกษาทั้งหมดเพียง 6,000 คน จึงถือเป็นมหาวิทยาลัยที่เล็กที่สุดในบรรดา Ivy League ด้วยกัน มหาวิทยาลัยมีทุนการศึกษาแจกเป็นจำนวนมาก เช่น นักศึกษาอเมริกาที่มีรายได้ครอบครัวต่อปีต่ำกว่า $75,000 หรือประมาณ 2,250,000 บาท ไม่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียน สาขาที่มีชื่อเสียงได้แก่ การปกครอง ประวัติศาสตร์ จิตวิทยา ชีววิทยา
Cornell University ตั้งอยู่ในเมืองอิทาคา รัฐนิวยอร์ก นอกจากนี้ยังมีวิทยาเขตในต่างประเทศที่ใกล้ๆ กับเมืองโดฮา ประเทศกาตาร์อีกด้วย มหาวิทยาลัยนี้เน้นการสอนหลักสูตร International programs เช่น สาขาแอฟริกันศึกษา สาขาฝรั่งเศสศึกษา สาขาเยอรมันศึกษา สาขายิวศึกษา สาขาละตินศึกษา สาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา เป็นต้น สาขาอื่นๆ ที่มีชื่อเสียง ได้แก่ การออกแบบ สถาปัตยกรรมศาสตร์ บริหารธุรกิจ สัตวแพทยศาสตร์
ต่อไปนี้ถ้าเจอใครที่เรียนที่ Ivy Leauge อยากจะขอพนมมือแล้วกราบแทบเท้างามๆ พร้อมกับบอกว่า เธอสวยและรวยมากกกก เก่งเกินมนุษย์ไปแล้วววว ดังนั้นน้องๆ คนไหนที่เล็งว่า จะต้องไปเรียนต่อที่ 8 สถาบันนี้ให้ได้ ก็ต้องตั้งใจเรียนตั้งแต่เนิ่นๆ นะคะ เอาให้ได้ 4.00 ทุกเทอมไปเลยเนาะ





ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น